บทความใหม่

สงวนลิขสิทธิ์ © 2568 Chayakorn Soithong

หมอเตือน “สมองเสื่อม” ไม่ใช่แค่โรคคนแก่

Share It:

หมอเตือน “สมองเสื่อม” ไม่ใช่แค่โรคคนแก่ – แนะทำ 3 ข้อนี้ ป้องกันตั้งแต่วัยหนุ่มสาว

เมื่อพูดถึง “โรคสมองเสื่อม” หลายคนมักเข้าใจว่าเป็นปัญหาสุขภาพที่เกิดขึ้นเฉพาะในผู้สูงอายุเท่านั้น แต่ในความเป็นจริง แพทย์ผู้เชี่ยวชาญหลายท่านได้ออกมาเตือนว่า “สมองเสื่อม” อาจเริ่มส่งสัญญาณตั้งแต่วัยหนุ่มสาว โดยเฉพาะคนที่มีพฤติกรรมบางอย่างที่บั่นทอนสมองโดยไม่รู้ตัว

สิ่งที่น่ากังวลคือ หากสมองเริ่มเสื่อมตั้งแต่อายุยังน้อย แล้วปล่อยให้เรื้อรังจนเข้าสู่วัยกลางคนหรือชรา อาการอาจหนักจนไม่สามารถฟื้นฟูได้ทันเวลา เช่น ลืมง่าย สมาธิสั้น ไม่สามารถวางแผนหรือคิดวิเคราะห์ได้เหมือนเดิม ซึ่งกระทบทั้งการทำงาน ความสัมพันธ์ และคุณภาพชีวิตโดยรวม

ดังนั้น หากอยากมี “สมองที่ดี” ไปจนแก่ หมอแนะนำให้เริ่มต้นดูแลตั้งแต่ตอนนี้ — และนี่คือ 3 วิธีที่ง่ายแต่ทรงพลัง ที่สามารถช่วยชะลอและป้องกันภาวะสมองเสื่อมได้ตั้งแต่วัยหนุ่มสาว


🧠 1. ใช้สมองให้หลากหลาย อย่าปล่อยให้ขี้เกียจคิด

สมองก็เหมือนกล้ามเนื้อ ถ้าไม่ได้ใช้ก็ฝ่อ

งานวิจัยทางสมองจำนวนมากยืนยันว่า การใช้สมองในรูปแบบที่หลากหลายช่วยกระตุ้นการเชื่อมต่อของเส้นใยประสาทและทำให้สมอง “ยืดหยุ่น” ได้มากขึ้น เช่น:

  • เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เช่น ภาษา ดนตรี หรือทักษะดิจิทัล

  • เปลี่ยนกิจวัตรประจำวัน เช่น ลองใช้มือซ้ายเขียนหนังสือถ้าคุณถนัดขวา

  • เล่นเกมที่ต้องใช้สมาธิ เช่น หมากรุก ซูโดกุ เกมแนววางแผน

  • อ่านหนังสือที่ท้าทายความคิด เช่น ปรัชญา วิทยาศาสตร์ หรือบทความวิเคราะห์

นอกจากนี้ การฝึกสมาธิ เช่น การนั่งสมาธิแบบไมน์ฟูลเนส (Mindfulness) ยังช่วยให้สมองสงบและลดความเครียด ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวการหลักที่ทำให้สมองเสื่อมเร็วขึ้น


🍽️ 2. กินให้ดี สมองจะอยู่กับคุณนาน

อาหารมีผลต่อสุขภาพสมองโดยตรง โดยเฉพาะอาหารที่ช่วยบำรุงเซลล์สมองและลดการอักเสบในระบบประสาท เช่น:

  • โอเมก้า 3 จากปลาแซลมอน ปลาทู ถั่ววอลนัต ช่วยบำรุงระบบประสาท

  • วิตามินบี เช่น B1, B6, B12 ที่พบในข้าวกล้อง ไข่ และผักใบเขียว มีส่วนช่วยในการสร้างสารสื่อประสาท

  • สารต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามิน E และ C จากผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ชาเขียว และถั่วเปลือกแข็ง ช่วยลดความเสื่อมของเซลล์สมอง

  • หลีกเลี่ยงน้ำตาลและอาหารแปรรูป เพราะอาจเร่งให้เกิดการอักเสบของสมองและเพิ่มความเสี่ยงโรคอัลไซเมอร์

การดื่มน้ำให้เพียงพอก็สำคัญ เพราะสมองต้องการน้ำในการส่งผ่านสัญญาณประสาท


🛌 3. นอนหลับให้ดี ออกกำลังกายให้เป็นนิสัย

การนอนหลับไม่ใช่แค่ “พักผ่อน” แต่มันคือช่วงเวลาที่สมองทำความสะอาดตัวเอง

ในขณะนอนหลับ ระบบสมองจะกำจัดของเสีย รวมถึงโปรตีน “เบต้า-อะไมลอยด์” ซึ่งเป็นหนึ่งในต้นเหตุของโรคอัลไซเมอร์ ถ้านอนไม่พอ สมองก็จะสะสมของเสียเหล่านี้มากขึ้นเรื่อยๆ

ดังนั้น

  • พยายามเข้านอนให้ตรงเวลาและนอนให้ได้ 7–9 ชั่วโมงต่อคืน

  • ปิดหน้าจอก่อนนอนอย่างน้อย 1 ชั่วโมง ลดแสงสีฟ้าที่รบกวนการหลับลึก

  • สร้างสภาพแวดล้อมที่สงบ เช่น ห้องมืด อุณหภูมิเย็นสบาย

ส่วนการ ออกกำลังกาย อย่างสม่ำเสมอ (อย่างน้อย 3–5 วัน/สัปดาห์) จะช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือดไปยังสมอง กระตุ้นการสร้างเซลล์ประสาทใหม่ และช่วยให้นอนหลับลึกขึ้นอีกด้วย


🚨 สัญญาณเตือนสมองเริ่มเสื่อม (ที่ไม่ควรมองข้าม)

  • ลืมสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้น เช่น วางของไว้แล้วจำไม่ได้

  • มีปัญหาในการวางแผนหรือแก้ปัญหาเล็กๆ

  • หลงทางในที่ที่คุ้นเคย

  • ใช้คำผิด หาคำพูดไม่เจอ

  • ตัดสินใจแปลกๆ เช่น โอนเงินผิดง่ายๆ โดยไม่มีเหตุผล

หากมีอาการเหล่านี้ถี่ขึ้น ควรพบแพทย์เพื่อตรวจสมองเพิ่มเติม


📌 “สมองเสื่อม” ไม่ได้เกิดขึ้นแค่ในวัยชรา แต่อาจค่อยๆ สะสมตั้งแต่วัยรุ่นหรือวัยทำงาน จากพฤติกรรมที่ดูเหมือนไม่อันตราย เช่น เครียดเรื้อรัง ไม่ออกกำลังกาย นอนน้อย หรือไม่ฝึกสมองให้คิดวิเคราะห์

หากคุณอยากให้ตัวเองในอนาคตยังฉลาด มีความคิดสร้างสรรค์ และจดจำเรื่องราวสำคัญในชีวิตได้ชัดเจน ควรเริ่มดูแลสมองตั้งแต่วันนี้ เพราะเมื่อสมองเสียแล้ว “ไม่มีอะไรมาทดแทนได้”

แค่ทำ 3 สิ่งนี้อย่างต่อเนื่อง — คิดให้หลากหลาย กินให้ดี และพักผ่อนให้เพียงพอ — ก็เท่ากับคุณกำลังลงทุนให้กับ “สมอง” ซึ่งเป็นสินทรัพย์สำคัญที่สุดในชีวิต

Tags :
--Advertising--

Grid News

Latest Post

Find Us on Youtube

อดีตพิธีกรายการท่องเที่ยว โลกใบใหม่ ออกอากาศทางช่อง Travel Channel Thailand, True Vision และช่อง Now24

บทความล่าสุด

ยอดนิยม