บทความใหม่

สงวนลิขสิทธิ์ © 2568 Chayakorn Soithong

5 สิ่งที่ควรเข้าใจเมื่อต้องทำงานกับ Gen Z

Share It:

Gen Z หรือคนที่เกิดระหว่างปี 1997-2012 กำลังเข้าสู่ตลาดแรงงานอย่างเต็มตัว ด้วยวัยที่สดใหม่ ทัศนคติที่แตกต่างจากเจเนอเรชันก่อน และความคุ้นเคยกับเทคโนโลยีที่เป็นธรรมชาติเหมือนลมหายใจ ทำให้หลายองค์กรเริ่มเผชิญกับความท้าทายในการเข้าใจและปรับตัวให้สามารถทำงานร่วมกับ Gen Z ได้อย่างมีประสิทธิภาพ บทความนี้จะพาคุณไปรู้จัก 5 สิ่งสำคัญที่ควรเข้าใจเมื่อต้องทำงานร่วมกับคนรุ่นนี้

1. Gen Z ให้ความสำคัญกับคุณค่าและความหมายของงาน

Gen Z ไม่ได้มองว่างานคือแค่สิ่งที่ต้องทำเพื่อเงินเดือน แต่พวกเขาให้ความสำคัญกับ “ความหมาย” และ “คุณค่า” ของสิ่งที่ทำ พวกเขาอยากรู้ว่างานที่ทำส่งผลต่อโลก ต่อผู้คน หรือแม้แต่ต่ออนาคตของตัวเองอย่างไร หากองค์กรสามารถอธิบายภารกิจ วิสัยทัศน์ และจุดประสงค์ของงานอย่างชัดเจน จะช่วยให้คนรุ่นนี้รู้สึกมีส่วนร่วมและมีแรงจูงใจในการทำงานมากขึ้น

ตัวอย่างเช่น หากคุณบริหารทีมที่มี Gen Z รวมอยู่ด้วย ลองสื่อสารให้ชัดเจนว่าโปรเจกต์ที่ทำอยู่นั้นมีผลกระทบต่อสังคมหรือกลุ่มผู้ใช้ปลายทางอย่างไร หรือจะชวนพวกเขาร่วมเสนอแนวทางเพื่อพัฒนางานให้ดียิ่งขึ้นก็เป็นอีกวิธีที่ช่วยให้พวกเขารู้สึกว่าเสียงของพวกเขามีคุณค่า

2. ความยืดหยุ่นและสมดุลชีวิตเป็นสิ่งสำคัญ

ต่างจากเจเนอเรชันก่อนหน้า Gen Z ไม่ได้ให้ความสำคัญกับการ “อยู่ให้ดึก” หรือ “ทำงานหนักเท่ากับทุ่มเท” พวกเขาให้ความสำคัญกับ Work-Life Balance และมองว่าการมีเวลาส่วนตัว หรือแม้แต่การทำงานแบบยืดหยุ่น (Flexible Work) เป็นสิ่งจำเป็นที่ช่วยให้พวกเขาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า

องค์กรที่สามารถปรับวิธีการทำงานให้สอดคล้องกับแนวคิดนี้ เช่น การเปิดโอกาสให้ทำงานแบบ Hybrid หรือ Remote การไม่เน้นเวลาการทำงานเท่ากับผลลัพธ์ จะมีโอกาสดึงดูดและรักษาคนรุ่นนี้ไว้ได้มากขึ้น

3. เทคโนโลยีคือสิ่งพื้นฐาน ไม่ใช่ทางเลือก

สำหรับ Gen Z เทคโนโลยีไม่ใช่สิ่งใหม่ แต่เป็นสิ่งที่พวกเขาเติบโตมาพร้อมกับมัน การใช้แอปพลิเคชันต่าง ๆ การเรียนรู้ออนไลน์ การทำงานผ่านเครื่องมือดิจิทัลต่าง ๆ เป็นเรื่องปกติและคาดหวังได้จากองค์กร

หากคุณต้องทำงานร่วมกับ Gen Z การใช้ระบบที่ล้าสมัย หรือการสื่อสารที่ยังติดอยู่กับอีเมลแบบเดิม ๆ อาจทำให้พวกเขารู้สึกไม่อิน การปรับองค์กรให้ทันกับเทคโนโลยี เช่น การใช้แพลตฟอร์มที่รวดเร็ว การสื่อสารผ่านแชต หรือการให้สิทธิ์ในการทดลองเครื่องมือใหม่ ๆ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานร่วมกันได้มาก

4. การเติบโตอย่างรวดเร็วและโอกาสในการพัฒนาเป็นแรงผลักดัน

Gen Z เป็นคนรุ่นที่มีความทะเยอทะยานสูง พวกเขาไม่ได้ต้องการรอเป็นสิบปีเพื่อเลื่อนขั้น แต่คาดหวังว่าจะได้รับโอกาสในการเรียนรู้ เติบโต และพัฒนาทักษะอย่างต่อเนื่อง หากองค์กรมีระบบ Mentorship หรือ Career Path ที่ชัดเจน จะสามารถตอบโจทย์คนรุ่นนี้ได้อย่างดี

การให้ Feedback ที่สม่ำเสมอและสร้างสรรค์เป็นอีกสิ่งที่ Gen Z ให้ความสำคัญ พวกเขาอยากรู้ว่าตนเองทำได้ดีแค่ไหน ควรปรับปรุงตรงไหน และมีโอกาสในการเติบโตหรือไม่ การนิ่งเฉยหรือรอประเมินปลายปีอาจทำให้พวกเขารู้สึกไม่ได้รับการเหลียวแล

5. การเปิดกว้างและความหลากหลายคือมาตรฐานใหม่

Gen Z เติบโตมาในโลกที่เปิดกว้างมากขึ้น ทั้งในด้านความคิด เพศ วัฒนธรรม และไลฟ์สไตล์ พวกเขายอมรับความหลากหลายและคาดหวังว่าองค์กรก็จะทำเช่นนั้น การสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เคารพความแตกต่าง สนับสนุนความเท่าเทียม และเปิดโอกาสให้ทุกเสียงได้ถูกได้ยิน จะเป็นพื้นฐานสำคัญในการสร้างสภาพแวดล้อมที่ Gen Z รู้สึกว่าพวกเขาเป็นส่วนหนึ่งอย่างแท้จริง

ไม่ว่าจะเป็นนโยบายเรื่อง DEI (Diversity, Equity, Inclusion) หรือการให้โอกาสทุกคนมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น ล้วนเป็นสิ่งที่ส่งผลโดยตรงต่อการตัดสินใจของ Gen Z ว่าจะอยู่หรือไปจากองค์กรนั้น ๆ

การทำงานกับ Gen Z ไม่ใช่เรื่องยาก หากเราเข้าใจธรรมชาติและมุมมองของพวกเขา คนรุ่นนี้เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ พลังงาน และความสามารถในการปรับตัวอย่างรวดเร็ว หากองค์กรสามารถเปิดใจ ปรับวิธีการทำงาน และให้พื้นที่ในการเติบโตและแสดงออกอย่างเหมาะสม Gen Z จะกลายเป็นกำลังสำคัญที่จะพาองค์กรก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง

Tags :
--Advertising--

Grid News

Latest Post

Find Us on Youtube

อดีตพิธีกรายการท่องเที่ยว โลกใบใหม่ ออกอากาศทางช่อง Travel Channel Thailand, True Vision และช่อง Now24

บทความล่าสุด

ยอดนิยม